การจัดการศึกษาเพื่อให้เกิดความรู้คู่คุณธรรม
มีคำที่ว่า “รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานชีวิตคือการศึกษา” การศึกษาถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้คนเราได้รู้ดี รู้ชั่ว หรือรู้ถูก รู้ผิด รู้แยกแยะและทำให้รู้ว่าเราจะทำอย่างไรจึงจะสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและไม่ทำให้สังคมเดือดร้อนวุ่นวาย ถ้าเป็นการศึกษาที่ปลูกฝังให้เยาวชนได้มีความรู้คู่คุณธรรม
การศึกษาถือว่าเป็นการสร้างคน สร้างงาน และสร้างชาติ ทำให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยหรือพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีสอดคล้องกับสภาพของสังคมเพราะได้เรียนทั้งวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต การรู้จักทำตนให้อยู่รอดปลอดภัย สุนทรภู่ก็กล่าวไว้ว่า
“รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี”
ความคาดหวังของสังคมต่อการจัดการศึกษา
สังคมไทย และสังคมโลกเริ่มจะให้ความสำคัญกับการศึกษา “ความรู้ คู่คุณธรรม” มากขึ้นแล้ว ดังจะเห็นได้จากบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญของไทย 2559 และทิศทางการรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา จะพิจารณาความดีและความเก่ง ควบคู่ไปกับการสอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อ และมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งจะมีโครงการเด็กดีมีที่เรียน เป็นต้น
สำหรับความคาดหวังของสังคมต่อผลผลิตผู้จบการศึกษา น่าจะเป็นดังนี้
1. ให้ความสำคัญกับคนดีมากกว่าคนเก่ง
ในการรับสมัครงาน จะพิจารณาประวัติผลงาน ความประพฤติ การมีจิตสาธารณะ เหตุผล เพราะคนเรียนหนังสือเก่งอย่างเดียว แต่ความประพฤติไม่ เรียบร้อย จะอยู่ในสังคมอย่างลำบาก เพราะผู้คนคงจะไม่ชอบและไม่อยากคบค้าสมาคมคนที่เห็นแก่ตัว และในการทำงานจริง ๆ คนดีมีคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต ขยันอดทนเท่านั้น จึงจะได้รับความไว้วางใจ และให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
2. ให้ความสำคัญกับความประพฤติ/จรรยาบรรณวิชาชีพมากขึ้น
นั้นคือจะมีมาตรการให้คุณให้โทษสำหรับคนที่ทำอาชีพแต่ละด้านถ้าใครมีหน้าที่ที่จะต้องปกปักรักษาสิ่งนั้น แต่ทำผิดเสียเอง จะได้รับโทษหนักเป็นทวีคูณ เช่น ตำรวจมีหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์ และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ถ้าทำผิดเสียเองก็จะได้รับโทษเป็นทวีคูณสองเท่าสามเท่า หรือดารานักแสดง ซึ่งมีอิทธิผลต่อการเลียนแบบหรือการเป็นอย่างของเยาวชน ถ้าทำตนเป็นตัวอย่างไม่ดี ติดยาเสพติด ค้ายาเสพติด
ทำตัวไม่เหมาะสม ก็จะได้รับ การประจาน และมาตรการที่รุ่นแรงจนถึงกับตัดสิทธิ์อนาคตของคนนั้นๆ ทำให้หมดอนาคตไปได้ง่ายๆ หรือครู อาจารย์ ถ้าประพฤติผิดจรรยาบรรณวิชาชีพ ก็จะถูกสังคมเพ่งเล็ง และเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพได้ง่ายและโอกาสที่จะไปสมัครงานที่อื่นก็ยากลำบากเพราะเหมือนมีชนักติดตัวแล้ว
3. การประกอบอาชีพอิสระ และพอเพียงจะมีความยั่งยืน
เนื่องจากปัจจัยที่จะทำให้สามารถดำรงชีวิตได้ คือการมีอาชีพ โดยเฉพาะอาชีพที่เป็นนายของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร หัตถกรรมอุตสาหกรรมครัวเรือน งานช่างฝีมือการทำอาหาร ตั้งร้านอาหาร การทำขนม การขายตรง เป็นต้น คนจะหันมาทำ ขอเพียงแต่สังคมให้การอุดหนุน และในขณะเดียวกันผู้ประกอบอาชีพอิสระจะต้องรักษามาตรฐานสินค้า และไม่เอาเปรียบผู้บริโภค ขายได้กำไรพออยู่ได้ พอเพียง ราคาไม่แพง แต่จะได้ลูกค้ามาก ถ้าราคาแพง ลูกค้าก็ขาดกำลังทรัพย์ จะต้องหาสินค้าหลายมาตรฐานและเหมาะกับลูกค้าแต่ละคน และข้อสำคัญไม่เอาเปรียบกัน ไม่มีกลโกงในการซื้อขายในการประกอบอาชีพ ถ้าภาครัฐให้การส่งเสริมสนับสนุน ยิ่งจะทำให้ผู้คนหันมาสนใจและประกอบอาชีพนั้นๆ มากขึ้น เช่น ให้สินเชื่อ ทุนตั้งตัวด้วยดอกเบี้ยไม่แพง ถือว่าเป็นการทำให้ประชาชนมีอาชีพตั้งตัวได้ มีความสุข และสร้างงาน สร้างชาติ
4. การรู้รักสามัคคี สมานฉันท์และปรองดองของคนในชาติ
สังคมจะให้ความสำคัญของการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ในการดำรงชีวิตและช่วยเหลือกันในยามคับขัน เช่น ประเพณีลงแขกของไทย เวลาเกิดภาวะวิกฤติน้ำท่วมข้าวในนาจมน้ำเสียหาย ร่วมด้วยช่วยกัน ผลผลิตด้านการเกษตรราคาไม่ค่อยดี จะมีการรับซื้อแทรกแซงตลาด ไม่ปล่อยให้พ่อค้าคนกลางแสวงหาประโยชน์หรือทำการขูดรีดชาวนาชาวไร่ กิจกรรมบ้าน วัด โรงเรียน จะให้ความสำคัญ ประเพณีชุมชนที่จะทำให้ผู้คนรู้รักสามัคคีจะถูกนำมาใช้และปฏิบัติจริงในชีวิตประจำวันมากขึ้น
จะจัดการศึกษาอย่างไรจึงจะทำให้ผู้เรียนมีความรู้คู่คุณธรรม
คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่า ความรู้กับคุณธรรมอะไรสำคัญกว่าเพราะสังคมได้พบสัจธรรมแล้วว่า คนมีความรู้เพียงอย่างเดียวก็จะเอาตัวไม่รอด ทำให้สังคมเดือดร้อน เพราะคนที่มีความรู้ดีจะคิดหาวิธีโกงได้พิสดารกว่าคนอื่นถ้าเขาเป็นคนที่ปราศจากคุณธรรม จริยธรรม ดังนั้น ความรู้ต้องคู่คุณธรรมเสมอการจัดการศึกษาจึงเพื่อให้เกิดความรู้คู่คุณธรรม มีดังนี้
- สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีในโรงเรียน : สร้างสโลแกนที่ว่า “แบบอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าคำสอน” ผู้บริหาร และครูประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านคุณธรรม จริยธรรม ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่จะทำให้ผู้เรียนได้ตัวแบบที่ดีและประพฤติปฏิบัติตน
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้แสดงออกทางด้านจริยธรรมที่ดี : เช่น คุณธรรมพื้นฐาน ๘ ประการ ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์มีวินัย สุภาพ สะอาด สามัคคีมีน้ำใจ
- ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม จากาการเล่นกีฬา : ให้เป็นผู้ รู้แพ้ รู้ชนะ ให้อภัย เป็นกีฬาสร้างคน คนสร้างชาติ
- กิจกรรมสร้างนิสัยใช้กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี : เป็นการปลูกฝังระเบียบวินัยให้กับนักเรียน และจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันศุกร์ของสัปดาห์
- จัดกิจกรรมคนดีของสัปดาห์ : จัดประกวดมรรยาทดี วินัยดีเด่นแก่นักเรียนแต่ละสัปดาห์ และมีคะแนนบันทึกไว้เพื่อนำไปตัดสิน ผลการเรียนด้วย
- ยกย่องเชิดชูเกียรติครูที่มีจิตวิญญาณ : เมื่อพบว่าครูคนใด เป็นแบบอย่างที่ดี ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมแก่ศิษย์จนมีชื่อเสียง ก็ควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน
สรุป :
- การจัดการศึกษา สังคมจะให้ความสำคัญการเป็นคนดีมากกว่าคนเก่ง หรือให้มีความรู้คู่คุณธรรม ดังนั้น
- การจัดการศึกษา ต้องปลูกฝังให้นักเรียนต้องเสงี่ยมเจียมตัวทำตนให้เพียบพร้อมไปด้วยความรู้และคุณธรรม จริยธรรม
- มีทักษะชีวิตมีภูมิคุ้มกันด้านคุณธรรม จริยธรรมจึงจะสามารถเป็นที่ยอมรับของคนในสังคมและสามารถดำรงตน
- ในสังคมได้อย่างมีความสุข
ฝากไว้คิด :
ครูดี มีคุณธรรม ประจำจิต
ครูดี สร้างชีวิต ให้สดใส
สร้างความรู้ คู่คุณธรรม ในดวงใจ
ครูดีไซร้ เป็นผู้นำ ทางวิญญาณ
โดย… ดร. ถวิล อรัญเวศ รอง ผอ.สพป.นครราชสีมา เขต 4
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก WEBSITE
GotoKnow